รู้จัก! ผื่นลมพิษในเด็ก ควรดูแลและป้องกันลูกน้อยอย่างไร?
รู้จัก! ผื่นลมพิษในเด็ก ควรดูแลและป้องกันลูกน้อยอย่างไร?
โดย : หมอคู่คิดส์ | 14 สิงหาคม 2025 | บทความทางการแพทย์
Highlight
– อาการของผื่นลมพิษ มักจะนูน บวม แดง รู้สึกคัน ไม่สบายตัว
– หากเป็นแล้ว มักหายเองใน 24-48 ชม.
– สาเหตุมักเกิดจาก การติดเชื้อ แพ้อาหาร แพ้ยา แพ้สัมผัส เป็นต้น
– ดูแลลูกได้ด้วยการเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้แพ้
– พยายามอย่าให้ลูกเกาหรือสัมผัสบริเวณผื่น
– สามารถกินยาแก้แพ้หรือทาคาลาไมน์ได้
ผื่นลมพิษในเด็ก เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยในเด็กทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังมีภูมิคุ้มกันไม่สมบูรณ์ เด็กที่เกิดอาการลมพิษอาจทำให้พ่อแม่หลายคนกังวลใจอย่างมาก ซึ่งการเข้าใจอาการ สาเหตุ และวิธีดูแลอย่างถูกต้อง จะช่วยให้พ่อแม่รับมือได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ในบทความนี้ หมอคู่คิดส์จะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกบ้านไปทำความรู้จักกับ “ผื่นลมพิษในเด็ก” อย่างละเอียด ตั้งแต่สาเหตุที่ทำให้เกิดผื่น อาการที่ควรสังเกต พร้อมด้วยวิธีดูแลลูกน้อยเมื่อเกิดผื่น
ผื่นลมพิษในเด็กคืออะไร
ผื่นลมพิษ (Urticaria หรือ Hives) คือ ผื่นผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ โดยมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงหรือชมพู บางรายอาจมีลักษณะเป็นปื้น คล้ายถูกยุงกัดหรือโดนของร้อน ส่วนอาการคันนั้นขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน โดยลักษณะเด่นของผื่นลมพิษคือผื่นมักเคลื่อนที่ เปลี่ยนตำแหน่ง และหายภายในไม่กี่ชั่วโมง เช่น เช้าเกิดที่แขน เย็นย้ายไปขา ลมพิษสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง แต่ในเด็กส่วนใหญ่มักเป็นแบบเฉียบพลัน ซึ่งหายได้เองภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์
อาการของผื่นลมพิษในเด็ก
พ่อแม่สามารถสังเกตอาการของผื่นลมพิษในเด็กได้ดังนี้
ลักษณะของผื่น
– ผื่นมีลักษณะเป็นปื้นนูนหรือแผ่นแดง ล้อมรอบด้วยผิวหนังที่ปกติ
– สีผื่นอาจเป็นสีชมพู สีแดง หรือซีดกว่าผิวปกติ
– ผื่นอาจใหญ่น้อยไม่เท่ากัน แต่มีขอบเขตของผื่นชัดเจน
– ตำแหน่งของผื่นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น หายจากส่วนหนึ่งไปขึ้นอีกที่หนึ่ง
ความรู้สึกของเด็กเมื่อเป็นผื่น
– คันบริเวณผื่น เด็กจะรู้สึกอยากเกา
– บางรายอาจร้องไห้หรือมีอาการหงุดหงิดเนื่องจากคันมาก
– ในบางรายอาจมีอาการปวดหรือร้อนบริเวณผื่น
อาการร่วมอื่นๆ (พบไม่บ่อย)
– เด็กบางคนอาจมีอาการหน้าบวม ปากบวม หรือเปลือกตาบวม
– ไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ หรืออาเจียนในบางกรณี
หากลมพิษรุนแรง อาจหายใจลำบาก มีเสียงหวีด หรือความดันโลหิตลดลง (ภาวะแพ้รุนแรง) หากลูกน้อยมีอาการร่วมอย่างการหายใจติดขัด รูปหน้าเริ่มเปลี่ยน ปากเขียว หรือซึมมาก ควรรีบพบแพทย์ทันที
สาเหตุของผื่นลมพิษในเด็ก
ลมพิษในเด็กถือเป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง เกิดขึ้นได่จากหลายสาเหตุ เช่น
การแพ้อาหาร
– ไข่
– นมวัว
– ถั่วลิสง
– แป้งสาลี (กลูเตน)
– อาหารทะเล
การติดเชื้อ
– ไวรัส
– แบคทีเรีย
– เชื้อรา
การแพ้ยาบางชนิด
– ยาลดไข้
– ยาปฏิชีวนะบางประเภท
– ยากันชัก
– วัคซีน (เกิดได้บ้าง แต่พบไม่บ่อยและมักไม่รุนแรง)
สารสัมผัสหรือสิ่งแวดล้อม
– ลม ฝุ่น หรืออากาศหนาวจัด/ร้อนจัด
– การสัมผัสขนสัตว์ สารก่อภูมิแพ้ สบู่ หรือโลชันบางชนิด
– แมลงสัตว์กัดต่อย
วิธีดูแลและรักษาผื่นลมพิษในเด็ก
– สังเกตอาการของลูกเสมอ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มกินอาหารใหม่ หรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายลูก
– หาต้นเหตุและหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้แพ้
– หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณผื่น เพราะจะทำให้ผื่นลุกลามหรือแย่ลง
– อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงน้ำอุ่นจัด และควรใช้สบู่อ่อนโยนไร้สารเคมี
– ปรับสภาพแวดล้อมให้เย็นสบาย หลีกเลี่ยงอากาศร้อน อับชื้น หรือฝุ่นควัน
– กินยาแก้แพ้หรือทาคาลาไมน์
ผื่นลมพิษในเด็กเป็นอันตรายไหม?
โดยส่วนใหญ่แล้วผื่นลมพิษในเด็กไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง และมักหายได้เองเมื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น อย่างไรก็ตาม หากมีอาการแพ้รุนแรงหรือมีอาการบวมที่ใบหน้า ลำคอ หายใจลำบาก ซึม หรือผื่นขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วร่างกาย ควรรีบพาเด็กไป รพ.ทันที เพื่อป้องกันภาวะช็อกจากการแพ้
สรุปเรื่องผื่นลมพิษในเด็ก
ผื่นลมพิษในเด็กเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการผื่นคันที่พบได้บ่อย โดยสามารถเกิดจากหลายปัจจัย เช่น อาหาร การติดเชื้อ หรือยาบางชนิด ถึงแม้ว่าผื่นลมพิษจะดูน่ากังวล แต่หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ก็สามารถบรรเทาอาการและหายได้ในเวลาไม่นาน
คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกน้อย อาการเจ็บป่วย พัฒนาการเด็ก หรือเรื่องอื่นๆ สามารถโหลดแอปฯ หมอคู่คิดส์ เพื่อปรึกษาแพทย์ พยาบาล ได้เลย รู้อาการได้ทันที ไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล ใช้งานง่าย คุยได้ตลอด ผ่านระบบแชทและวิดีโอคอล ดาวน์โหลดและปรึกษาเลยวันนี้! ทั้งในระบบ iOS และ Android