“หมอคู่คิดส์” แอปฯ หมอเด็กออนไลน์
โดย : หมอคู่คิดส์ | 28 กุมภาพันธ์ 2025 | บทความทางการแพทย์
Highlight
– เด็กก็เป็นกรดไหลย้อนได้ โดยเฉพาะทารก 0-3 เดือน
– สาเหตุเกิดจากทารกมักกินนมในท่านอน หรือกินนมมากไป
– เด็กมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน กระสับกระส่าย หรือร้องไห้ผิดปกติ
– ป้องกันได้ด้วยอุ้มเรอหลังกินนม และไม่ควรให้ลูกนอนราบทันที
รู้หรือไม่? โรคสุดฮิตของผู้ใหญ่อย่างกรดไหลย้อน เด็กๆ ก็เป็นได้นะ โดยเฉพาะในวัยทารก ซึ่งจากสถิติระบุว่าในทารก 100 คน สามารถเป็นกรดไหลย้อนได้มากถึง 25 คน นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของลูกน้อยที่พ่อแม่ทุกคนต้องเฝ้าระวัง อาการจะเป็นอย่างไร มีวิธีดูแลลูกแบบไหน ตามไปอ่านได้เลยในความ
โรคกรดไหลย้อนในเด็ก เป็นภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการระคายเคืองและอักเสบ เป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยในเด็กเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็ก ส่วนสาเหตุนั้นเป็นเพราะหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูควบคุมการไหลของอาหารจากหลอดอาหารลงสู่กระเพาะอาหาร ยังทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพเท่ากับคนวัยอื่น จึงทำให้หูรูดนี้คลายตัวบ่อยเกินไปหรือไม่ปิดสนิท ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหารได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดโรคกรดไหลย้อนในเด็ก ได้แก่
– ทารกมักกินนมในท่านอนเป็นหลัก
– การกินนมที่มีปริมาณมากเกินไป
– จังหวะการกินนมไม่ดีพอ
อาการของกรดไหลย้อนในเด็กอาจแตกต่างจากผู้ใหญ่ และเด็กอาจไม่สามารถบอกถึงอาการได้อย่างชัดเจน คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการดังต่อไปนี้
– มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหลังกินนม
– มีอาการกระสับกระส่ายตอนกินนม
– ร้องไห้มากผิดปกติ
– นอนไม่หลับ
– น้ำหนักตัวเพิ่มไม่เต็มที่หรือการเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์
– กินได้น้อยลง หรือเบื่อการกิน
– การตรวจวัดค่า pH ของหลอดอาหาร : เป็นการตรวจวัดความเป็นกรดในหลอดอาหารตลอด 24 ชั่วโมง
– การส่องกล้องตรวจหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร : เพื่อตรวจดูความผิดปกติของหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร
– การตรวจเอกซเรย์ : เพื่อตรวจดูความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
การรักษาโรคกรดไหลย้อนในเด็กขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการรับประทานอาหารร่วมกับการใช้ยา เช่น
– ให้เด็กรับประทานอาหารปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง
– ให้เด็กนั่งหรือยืนหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที
– หลีกเลี่ยงการให้อาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน
– ให้นอนยกหัวสูงประมาณ 6-8 นิ้ว
– ลดน้ำหนักในเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน
– หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
ในบางกรณีแพทย์อาจสั่งยาเพื่อลดกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้ยาเด็ก
การป้องกันและดูแลลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคกรดไหลย้อน สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้
– ให้นมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกรดไหลย้อนในทารก
– จับลูกอุ้มเรอ หลังจากที่ให้กินนม
– หลังกินนม จับศีรษะลูกตั้งขึ้นประมาณ 30 องศา เพื่อนมไหลผ่าน
– อย่าให้ลูกนอนราบทันทีหลังกินนม
– เลือกนมผงที่เหมาะสมกับเด็ก หรือปรึกษาแพทย์หากเด็กมีอาการแพ้นมวัว
– ให้อาหารเด็กในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย หลีกเลี่ยงการบังคับให้เด็กรับประทานอาหารมากเกินไป
– ให้นั่งหรือยืนหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที
– หลีกเลี่ยงการให้อาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน
– ให้นอนยกหัวสูงประมาณ 6-8 นิ้ว
– ควบคุมน้ำหนักของเด็กให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
– หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อนในเด็กเป็นภาวะที่ต้องอาศัยความใส่ใจและการดูแลจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิด โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างและการดูแลด้านโภชนาการ จะสามารถช่วยลดอาการและป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงได้ การรู้จักสังเกตอาการและปรึกษาแพทย์เมื่อจำเป็น จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณมีสุขภาพดียิ่งขึ้น และสามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมวัยและแข็งแรง
คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกน้อย อาการเจ็บป่วย พัฒนาการเด็ก หรือเรื่องอื่นๆ รวมไปถึงปัญหาสุขภาพใจหลังคลอดของคุณแม่ สามารถโหลดแอปฯ หมอคู่คิดส์ เพื่อปรึกษาแพทย์ พยาบาล จิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาได้ทันที ใช้งานง่าย คุยได้ตลอด ผ่านระบบแชทและวิดีโอคอล ดาวน์โหลดและปรึกษาเลยวันนี้! ทั้งในระบบ iOS และ Android
4 สัญญาณเตือนแม่ใกล้คล […]