6 วิธีดูแลลูกให้ปลอดภัยจากน้ำท่วม
6 วิธีดูแลลูกให้ปลอดภัยจากน้ำท่วม
โดย : หมอคู่คิดส์ | 27 สิงหาคม 2024 | บทความแม่และเด็ก
น้ำท่วมถือเป็นอีกหนึ่งภัยธรรมชาติที่คนไทยเราต้องเจอในช่วงฤดูฝนแทบทุกปี ซึ่งหนึ่งในความกังวลหลักของผู้ปกครองคือความปลอดภัยของลูกหลาน น้ำท่วมสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและบางครั้งอาจไม่มีการเตือนล่วงหน้า ท่ามกลางความสับสนและความเร่งด่วน การเตรียมตัวและการมีแผนรับมือที่ชัดเจนสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ครอบครัวของคุณได้ ซึ่งบทความนี้เราจะมาแชร์ 6 เทคนิคดีๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
1. ระวังโรคภัย
ในช่วงที่น้ำท่วม โรคภัยต่างๆ สามารถแพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่สามารถปนเปื้อนมากับน้ำ การดูแลด้านสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกเกิดอาการเจ็บป่วย ควรรักษาความสะอาดของร่างกายให้มากเป็นพิเศษ หมั่นตรวจเช็กสุขภาพของลูกอย่างสม่ำเสมอ โดยโรคที่มักมากับน้ำท่วม ได้แก่
– โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
– ภาวะขาดน้ำ
– โรคฉี่หนู
– โรคผิวหนัง
– โรคไข้เลือดออก
2. กินอาหารสุกและสะอาด
การกินอาหารที่สุกและสะอาดมีความสำคัญอย่างมากในช่วงน้ำท่วม เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเจ็บป่วยจากอาหารเป็นพิษ ส่วนการเลือกอาหารควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงอาหารสดที่มาจากพื้นที่น้ำท่วม หรืออาหารจากแหล่งที่ไม่แน่ใจในความสะอาด นอกจากนี้ควรเช็กวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่เก็บไว้ด้วย สำหรับอาหารที่ปรุงสุกแล้วควรเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ไม่ควรรับประทานอาหารที่ทิ้งไว้นาน และควรดื่มน้ำที่ผ่านการต้มสุก หรือใช้เครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐาน
สำหรับเด็กเล็กที่ยังกินนมแม่อยู่ ควรให้น้องกินนมแม่ต่อไป แต่ถ้าหากน้องเริ่มกินนมผสมแล้ว ควรชงนมด้วยน้ำต้มสุก หากต้องการทำความสะอาดขวดนมให้ล้างด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น ส่วนเด็กวัย 3-4 ขวบ ควรกินอาหารที่ปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุก
3. ทำความสะอาดแผลให้ดี
หากมีความจำเป็นจ้องเดินลุยน้ำที่ท่วม ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจมีวัตถุมีคมที่มองไม่เห็นทำให้เกิดบาดแผลได้ หากเกิดบาดแผลขึ้นมาจริงๆ การดูแลบาดแผลอย่างถูกวิธีนััน สามารถป้องกันการติดเชื้อร้ายแรงได้ โดยควรทำความสะอาดแผลทันทีด้วยแอลกอฮอล์ตามด้วยยาฆ่าเชื้อ และปิดแผลด้วยผ้าพันแผลที่สะอาด
4. กำจัดของเสียให้ถูกวิธี
การกำจัดของเสียในช่วงน้ำท่วมเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย ควรฝึกให้ลูกทิ้งขยะในถังขยะที่ปิดมิดชิดเสมอ หลีกเลี่ยงการทิ้งขยะลงในน้ำที่ท่วมขัง เพราะขยะและน้ำเสียจากน้ำท่วมเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคที่อันตรายมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็ก ดังนั้นควรกำจัดขยะและน้ำเสียให้ถูกวิธี โดยไม่ปล่อยทิ้งไว้ในบริเวณที่ลูกสามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ควรแยกขยะอันตรายออกจากขยะทั่วไป หากลูกต้องการขับถ่าย ควรให้ขับถ่ายใส่ถุงดำหรือถุงพลาสติก มัดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปทิ้งในที่เหมาะสม ไม่ควรให้เด็กถ่ายลงน้ำ เพราะเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคเช่นกัน
5. ป้องกันความปลอดภัย
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเด็กเล็ก โดยเฉพาะข่วงน้ำท่วมที่ถือเป็นว่าช่วงที่อันตรายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่ไม่สามารถเรียนรู้เรื่องภัยอันตรายได้มากเท่าที่ควร ดังนั้นเมื่อมีน้ำท่วมขัง สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำคือการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ไม่ควรปล่อยให้ลูกเล่นในน้ำ เนื่องจากอาจมีสิ่งแปลกปลอม สารพิษ หรือสัตว์มีพิษ ซ่อนอยู่ในน้ำ นอกจากนี้ควรสอนลูกให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่น้ำไหลแรง และไม่เข้าใกล้แหล่งน้ำที่อาจมีไฟฟ้ารั่ว เพื่อป้องกันการโดนไฟดูด
หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านหรือจำเป็นต้องลุยน้ำ ควรให้ลูกสวมเสื้อชูชีพและรองเท้าบูท เพื่อป้องกันการจมน้ำและลื่น อีกทั้งยังควรเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย ไม่ใช่ทางน้ำไหลเชี่ยว โดยผู้ปกครองต้องมีการดูแลลูกอย่างใกล้ชิดเสมอ นอกจากนี้ยังควรติดตามข่าวสารและคำเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพหากจำเป็น
ใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
โดยอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันความปลอดภัยได้ในยุคนี้คือเทคโนโลยี ที่สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของครอบครัวในช่วงน้ำท่วมได้เช่นกัน หากสัญญาณอินเทอร์เน็ตยังไม่ถูกตัด ให้หมั่นติดตามข่าวสารอยู่เสมอ หรือรีบโทรขอความช่วยเหลือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ต้องไม่ลืมที่จะเตรียม Powerbank ไว้ให้พร้อมด้วย เพื่อเอาไว้ชาร์จมือถือ เมื่อถึงเวลาที่ถูกตัดไฟ
6. ผ่อนคลายจิตใจ
การเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมอาจทำให้เกิดความเครียดทั้งต่อพ่อแม่และลูก วิธีที่ดีในการดูแลลูกให้ปลอดภัยคือการจัดการกับจิตใจ ความเครียดที่เด็กรู้สึกอาจส่งผลต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาว ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้ลูกได้รู้สึกปลอดภัย นอกจากนี้การทำกิจกรรมในครอบครัวก็สามารถช่วยคลายเครียดได้ เช่น การเล่นเกม การอ่านหนังสือ อ่านนิทาน หรือร้องเพลงให้ลูกฟัง จะช่วยให้ลูกผ่อนคลายและลืมความกังวลไปได้ในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากนี้การพูดคุยให้คำปรึกษาที่ช่วยสร้างความมั่นคงใจ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กัน
สรุปวิธีดูแลลูกให้ปลอดภัยจากน้ำท่วม
การดูแลลูกให้ปลอดภัยจากน้ำท่วมนั้น เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ผสานกับการเตรียมการล่วงหน้า และปฏิบ้ติตามหลักต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของลูกเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าการรับมือกับภัยพิบัตินั้นอาจเป็นเรื่องยาก แต่หากพ่อแม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี
คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกน้อย อาการเจ็บป่วย พัฒนาการเด็ก หรือเรื่องอื่นๆ รวมไปถึงปัญหาสุขภาพใจหลังคลอดของคุณแม่ สามารถโหลดแอปฯ หมอคู่คิดส์ เพื่อปรึกษาแพทย์ พยาบาล จิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาได้ทันที ใช้งานง่าย คุยได้ตลอด ผ่านระบบแชทและวิดีโอคอล ดาวน์โหลดและปรึกษาเลยวันนี้! ทั้งในระบบ iOS และ Android