ถอดรหัส “สี” ตัวช่วยลับ กระตุ้นพัฒนาการเด็ก
ถอดรหัส “สี” ตัวช่วยลับ กระตุ้นพัฒนาการเด็ก
โดย : หมอคู่คิดส์ | 28 มิถุนายน 2024 | บทความแม่และเด็ก
Highlight
- การมองเห็นของลูกน้อยเริ่มขึ้นทันทีเมื่อลืมตาดูโลก
- ช่วงแรกเกิดถึง 12 เดือนเป็นวัยที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตการมองเห็นของลูกน้อยให้รอบด้าน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด
- เด็กแสดงออกทางอารมณ์ผ่านสี เลือกเล่นของเล่นสีสดใสแสดงถึงอารมณ์เชิงบวก สีเข้มแสดงอารมณ์เชิงลบ
- สีที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างบรรยากาศที่สงบคือสีฟ้าและสีเขียว
- เด็กเล็กมักชอบสีสดใส โดดเด่น และตอบสนองต่อสีโทนอุ่นได้ดี
- ฟรี! เช็กพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูก ได้แล้ววันนี้ที่แอปฯ หมอคู่คิดส์ | ดาวน์
ฟรี! ประเมินพัฒนาการลูกน้อยและบันทึกการเจริญเติบโตของลูก
✅บันทึกการเจริญเติบโตตามช่วงวัย ตั้งแต่ 0-5 ปี
✅ระบุ “น้ำหนัก ส่วนสูง สัดส่วน รอบหัว” ของเด็กได้อย่างละเอียด พร้อมแสดงผลการประเมิน
✅บันทึกการประเมินพัฒนาการลูกน้อยแบบครบทั้ง 5 ด้าน ตั้งแต่ 0-36 เดือน
✅แนะนำวิธีกระตุ้นพัฒนาการที่ถูกต้อง
✅ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมได้ผ่านแอปฯ คุยง่าย ถามได้ตลอดทั้งวัน
อายุเท่านี้ หนูเห็นสีไหน เช็กพัฒนาการเด็กเแรกเกิดถึง 12 เดือน
การมองเห็นของทารกช่วงแรกยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ยิ่งในวัยแรกเกิด เจ้าตัวน้อยของเราจะมองเห็นแค่สีที่มีคอนทราสต์ตัดกันชัดเจนและแม่สีหลักเท่านั้น ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาการมองเห็นขึ้นตามการเจริญเติบโต มองเห็นสีได้มากขึ้น เข้าใจความเหมือน ความต่างของสีที่ใกล้เคียงกันและแยกแยะสีได้ดี ทั้งนี้ในช่วงแรกเกิดถึง 12 เดือนเป็นวัยที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตการมองเห็นของลูกน้อยให้รอบด้าน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด หาก 3 เดือนแล้ว ลูกยังไม่จ้องหน้าพ่อแม่ ตาไม่โฟกัส ตาเหล่ ตาเข ตาส่อน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับวิธีการกระตุ้นพัฒนาการ
เช็กพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูก ฟรี! เพียงดาวน์โลหลดแอปฯ ลงทะเบียนข้อมูลลูกน้อย
หรือประเมินพัฒนาการลูกกับแพทย์และกุมารแพทย์ได้โดยตรง ตลอดทั้งกลางวันกลางวัน ในแอปฯ หมอคู่คิดส์
พัฒนาการเด็ก : การมองเห็นของเด็กแรกเกิดถึง 3 เดือน
ช่วงแรกเกิดถึง 3 เดือน ลูกน้อยจะมองเห็นแค่สีคอนทราสต์สูงและแม่สี เช่น ดำ ขาว เทา แดง น้ำเงินและเหลืองเป็นหลัก สีอื่น ๆ พวกเขายังมองไม่เห็นมากนักโดยเฉพาะกลุ่มสีโทนอ่อนหรือสีที่มีเฉดใกล้เคียงกัน ส่วนระยะการมองเห็น ทารกจะมองเห็นชัดในระยะ 20-30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระยะเดียวกับที่คุณแม่ให้นมลูกแบบเข้าเต้า ดังนั้นช่วงระหว่างให้นม คุณแม่อย่าลืมพูดคุยกับลูกไปด้วย เพื่อสร้างความผูกพันและกระตุ้นพัฒนาการ
เด็กในวัยนี้จะเริ่มมองตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ และมักจดจ่อกับวัตถุที่มีสีเหล่านั้นได้ในระยะเวลาสั้น ๆ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องตกใจไป ถ้าลูกช่วงแรกลูกน้อยยังไม่สามารถโฟกัสกับอะไรได้นาน ๆ เพราะกล้ามเนื้อตายังทำงานได้ไม่เต็มที่
พัฒนาการเด็ก : การมองเห็นของเด็ก 4 – 6 เดือน
ในช่วงวัยนี้ลูกน้อยจะเริ่มมีการมองเห็นที่ดีขึ้นตามลำดับ เริ่มแยกสีที่คล้ายกันได้ เช่น สีเขียวและสีเหลือง รวมถึงมีระดับการมองเห็นที่ชัดขึ้น มองวัตถุ 3 มิติได้ครบทุกด้าน ทั้งตื้น ลึก หนา หรือบาง กะระยะความใกล้ไกลได้ดีขึ้น และเริ่มจ้องวัตถุที่เข้ามาใกล้ ๆ โฟกัสได้ดีขึ้น และเริ่มคว้ามือจับสิ่งของที่เข้ามาใกล้ นอกจากนี้ลูกจะเริ่มหันศีรษะมองตามวัตถุหรือคน ที่เคลื่อนไหวไปมาได้
พัฒนาการเด็ก : การมองเห็นของเด็ก 7 -12 เดือน
ลูกน้อยจะเริ่มแยกสีได้มากขึ้นและจับคู่สีเดียวกันได้ ปกติแล้วเมื่ออายุใกล้ 1 ขวบ เด็กจะเริ่มประเมินระยะวัตถุใกล้ไกลได้ชัดเจนขึ้น ด้วยการเริ่มใช้นิ้วมือหยิบจับสิ่งของ หรือเริ่มคลานไปยังที่ที่ต้องการ ทั้งยังเริ่มโยนวัตถุต่าง ๆ ไปยังเป้าหมายได้ตรงจุด นอกจากนี้ยังเจ้าตัวเล็กยังเริ่มสามารถโฟกัสวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้ แนะนำว่าให้ใช้ของเล่นสีสดใสเป็นตัวกระตุ้น
ทารกตั้งแต่ 7 เดือนเป็นต้นไป คุณพ่อคุณแม่สามารถพาไปเช็กสุขภาพตาได้ โดยในวัยนี้โรคเกี่ยวกับการมองเห็นในเด็กที่พบได้บ่อย เช่น ตาเข ตาเหล่ ท่อน้ำตาอุดตัน ฯลฯ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินอาการ หรือปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่แอปฯ หมอคู่คิดส์ เพื่อได้รักษาได้ทันท่วงที
สีไหน? ที่ใช่หนู กระตุ้นพัฒนาการเด็กด้วยสี
สีมีผลต่ออารมณ์ พฤติกรรมและสุขภาพจิตของมนุษย์ทุกคน โดยที่เราเองอาจจะไม่รู้ตัว เมื่อมองเห็นสี การรับรู้จะถูกส่งจากตาไปยังสมอง จากนั้นสมองจะปล่อยฮอร์โมนที่ส่งผลต่ออารมณ์ โดยเฉพาะกับเด็กที่มีความไวต่อสี อารมณ์ของพวกเขาส่วนหนึ่งเชื่อมโยงกับสีที่เห็น เช่น สีสดใสแทนอารมณ์เชิงบวก สีเข้มแทนอารมณ์เชิงลบ จะเห็นได้ว่าในเชิงออกแบบมักใช้สีสดใสในงานที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น ห้องเรียน คลินิกเด็ก ห้องนอน ผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้า ฯลฯ
ที่สำคัญเด็กยังแสดงออกทางอารมณ์ผ่านสี หากพวกเขาเลือกเล่นของเล่นสีสดใสแสดงถึงอารมณ์เชิงบวก สีเข้มแสดงอารมณ์เชิงลบ สังเกตได้ว่าในโรงพยาบาลเด็กจะใช้สีที่เหมาะสมเพื่อทำให้เด็กผ่อนคลายและสงบลง เช่น สีเหลืองในล็อบบี้เพื่อให้รู้สึกอบอุ่นดูต้อนรับ สีฟ้าในห้องนอนเพื่อให้เด็กพักผ่อน ดังนั้น ทุก ๆ สีจึงมีความหมายในแง่จิตวิทยาและสามารถกระตุ้นพัฒนาการในแต่ละด้านได้
“สีมีอิทธิพลต่อระบบชีวภาพและบุคลิกภาพของมนุษย์ ซึ่งเป็นผลทางจิตวิทยาที่เกิดขึ้นกับเด็ก และผู้ใหญ่
เมื่อเจ้าตัวน้อยสามารถรับรู้สีต่าง ๆ ได้แล้ว อารมณ์และบุคลิกภาพจึงเปลี่ยนแปลงตามสีที่พบเห็นไปด้วยนั่นเอง”
เค. วอร์เนอร์ เชอี (K. Warner Schaie) นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน อ้างอิงจากงานวิจัย On The Relation of Color and Personality
สีไหน? กระตุ้นพัฒนาการเด็กด้านไหน เสริมอารมณ์แบบไหน
สีที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างบรรยากาศที่สงบคือสีฟ้าและสีเขียว จากการศึกษาพบว่า การใช้สีโทนเย็นในห้องเรียน ช่วยในเรื่องความจำและเพิ่มความตั้งใจของนักเรียนได้ดี นอกจากนี้สีฟ้า ยังช่วยให้เด็ก ๆ เรียนได้ดีขึ้น (วัดจากผลการทดสอบ IQ สูงขึ้น) ขณะที่สีโทนอุ่นจะทำให้เด็ก ๆ กระตือรือร้นมากขึ้น
ส่วนพื้นที่กลางแจ้ง ลานกิจกรรมเด็ก การใช้สีสันที่สดใสจะกระตุ้นความสุขและสนุกสนานได้ดี จะเห็นได้ว่าตามสวนสนุก บ้านลมมักเต็มไปด้วยเครื่องเล่นสีสันสดใสที่มองไปทางไหนก็รู้สึกสนุกสนานและมีพลัง
- สีแดง
โดดเด่น สะดุดตา ไม่ว่าจะจับคู่กับสิ่งของไหนก็ช่วยกระตุ้นความตื่นเต้น สร้างความเร้าใจและปลุกความกระตือรือร้นให้เด็กได้ดี ทั้งยังเป็นสีที่มีพลังช่วยให้เจ้าตัวเล็กอารมณ์ดี ฝึกคิดสร้างสรรค์ ฝึกสมาธิ เป็นสีที่แสดงถึงความรัก ความหลง
อย่างไรก็ตามหากกระตุ้นด้วยสีแดงมากเกินไปอาจทำให้เด็กมีอารมณ์ก้าวร้าว หรือเสียสมาธิได้ง่าย ดังนั้นไม่แนะนำให้ใช้สีแดงมากไปในสภาพแวดล้อมที่เด็กต้องการสมาธิหรือผ่อนคลาย เช่น ในห้องนอนหรือห้องเรียน
- สีส้ม
สีที่นำมาซึ่งความสุข แสดงถึงมิตรภาพและความกระตือรือร้น มักเป็นสีสดใสสุดโปรดปรานของเด็ก ๆ ทั้งยังเป็นสีที่เพิ่มความกล้าแสดงออก มั่นใจ ความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นการตื่นตัวและเพิ่มสกิลการเข้าสังคมให้เด็กมากขึ้น ทั้งนี้การให้ลูกตื่นมาเจอกับวัตถุสีส้มในตอนเช้า จะช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉงได้มากขึ้น
- สีเหลือง
สีที่ดึงความสนใจได้ดีสุด ส่วนใหญ่แล้วเด็กมักจะรู้สึกสนุกสนาน มีพลัง ร่าเริง มองโลกในแง่ดีและกระตุ้นให้เด็กหัวเราะได้ง่าย ทั้งยังเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นสมอง พัฒนาความจำ เด็ก ๆ มักรู้สึกมีสมาธิมากขึ้นเมื่ออยู่กับวัตถุสีเหลือง อย่างไรก็ตาม การใช้สีเหลืองเข้มมากไป อาจจะกระตุ้นความโกรธและสร้างความหงุดหงิด จนอาจทำให้ทารกร้องไห้ได้
- สีเขียว
สีที่สร้างความสงบ ผ่อนคลาย สบายใจให้กับเด็ก การให้เด็กอยู่ในห้องที่มีสีเขียวจะช่วยเพิ่มสมาธิและทำให้เด็กหลับได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้จากงานวิจัยยืนยันว่า เด็ก ๆ หลายคนเชื่อมโยงสีเขียวกับความปลอดภัยและการมองโลกในแง่บวก เพราะสีเขียวมักเป็นสัญลักษณ์ของคำตอบที่ถูกต้องและสัญญาณไฟจราจรที่บอกให้ไปต่อ และในบางครั้งเด็กที่ชอบสีเขียวมักเป็นมีนิสัยรักธรรมชาติและใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ
- สีน้ำตาล
ส่วนใหญ่แล้วเด็ก ๆ มักไม่ชอบสีน้ำตาล เพราะอาจเป็นสีที่แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่และนิ่งเกินไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นสีที่อบอุ่นช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัย เป็นมิตร มั่นคง กระตุ้นพัฒนาการด้านสังคม ทั้งยังช่วยให้เจ้าตัวเล็กสงบและผ่อนคลายได้ดี ช่วยให้พวกเขามีความมั่นคงทางอารมณ์
แนะนำให้ใช้สีน้ำตาลคู่กับสีสันอื่น ๆ ที่สดใส เพื่อเพิ่มเรื่องความคิดสร้างสรรค์ และความสนุกสนาน
- สีดำ
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคน คงกังวลไม่อยากให้ลูกอยู่กับสีดำมากเกินไป ซึ่งจริง ๆ แล้วการให้ลูกน้อยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสีดำบ้าง ช่วยให้คลายเครียด สร้างสมดุลให้กับพวกเขาได้ดี ดังนั้นเวลาลูกหยิบจับหรือเลือกระบายสีด้วยสีดำเป็นส่วนใหญ่ ควรปล่อยให้เด็กได้ปลดปล่อยอารมณ์ด้านลบออกไป ไม่ควรไปห้ามไม่ให้เขาใช้สีดำ เพราะอาจทำให้เด็กเข้าใจว่า การแสดงออกถึงอารมณ์ด้านนั้นเป็นสิ่งที่ผิด
อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้ลูกน้อยอยู่ในห้องที่มีสีเข้มมากเกินไป อาจทำให้เด็กรู้สึกกลัวหรือไม่สบายใจได้
- สีฟ้า
สีที่ช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย พอใจ ทั้งยังช่วยลดความตื่นเต้น ลดเครียด ช่วยให้เจ้าตัวเล็กหลับง่ายและหายหัวร้อนจากการร้องไห้งอแง ยิ่งถ้าพวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตกแต่งด้วยสีฟ้าเป็นหลัก จะช่วยลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจได้ เป็นสีของการ calm down อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้สีฟ้าควรเป็นสีฟ้าโทนอ่อนที่ไม่ใช่ฟ้าเข้มแบบน้ำเงิน เพราะถ้าใช้สีฟ้าโทนเข้มมากไป อาจเพิ่มความหดหู่หรือความกังวลในชีวิตเด็กได้ ดังนั้น ใช้อย่างระมัดระวัง
- สีม่วงอ่อน
อีกหนึ่งสีที่เด็ก ๆ หลายคนโปรดปราน เพราะด้วยความสะดุดตา ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ดี มองไปก็ให้ฟีลผ่อนคลาย สบายตา ให้ความสงบเวลาเห็นวัตถุสีนี้ จึงเป็นสีที่เหมาะกับการเสริมสร้างจินตนาการและพัฒนาการทางอารมณ์เด็กให้เป็นไปในทางบวก เหมาะใช้ทั้งในห้องเรียนและที่บ้าน (เด็กที่ชอบสีม่วงส่วนใหญ่มักมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น)
- สีชมพู
หลายคนอาจมองว่าสีชมพูเป็นสีของเด็กผู้หญิงเพียงอย่างเดียว ซึ่งทางจิตวิทยาสีชมพูเป็นประโยชน์สำหรับเด็กผู้ชายด้วย เพราะเป็นสีที่ช่วยเรื่องความผ่อนคลาย มองไปแล้วสบายตาสบายใจ สงบ ช่วยกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจและความกระตือรือร้น ทั้งนี้การให้เด็ก ๆ ได้เห็นได้เล่น หรือรายล้อมด้วยสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสีชมพู จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจได้
สีชมพูเป็นสีที่มีเสน่ห์ มักทำให้คนที่มองอารมณ์ดีขึ้นได้ แต่การให้เด็กอยู่กับสีชมพูมากไป อาจทำให้พวกเขาเป็นคนขี้อายและเก็บตัว
สีที่ชอบ บอกอารมณ์ที่ใช่หนู สีกระตุ้นพัฒนาการเด็ก
เด็กๆ จะมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ดี เมื่อสัมผัสกับสีสันที่หลากหลาย จะเห็นได้ว่าแต่ละสีก็ให้อารมณ์และความรู้สึกที่ต่างกัน คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องหาบาลานซ์ให้ดี คอยสังเกตอยู่เสมอว่าลูกอยู่ในอารมณ์ไหน หรือต้องเสริมอารมณ์ กระตุ้นพัฒนาการด้านไหนเป็นพิเศษ
ปกติแล้วเด็กเล็กมักชอบสีสดใส โดดเด่น และตอบสนองต่อสีโทนอุ่นได้ดี เช่น สีแดงและสีส้มหากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าเด็กชอบสีอะไร สามารถถามเด็ก ๆ ได้เลยว่าพวกเขาเชื่อมโยงกับอารมณ์ไหนในแต่ละสี เพราะทุกครั้งที่พวกเขารายล้อมด้วยสีสันที่โปรดปราน มักมีแนวโน้มที่อารมณ์จะดีขึ้น และเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจกระตุ้นพัฒนาการเด็กผ่านของเล่นสีโปรด เช่น บล็อกสี หนังสือสี หนังสือภาพ เรียนรู้ผ่านการสำรวจธรรมชาติ เล่นบทบาทสมมติที่มีสีเกี่ยวข้อง เช่น รับบทคนทำอาหาร ที่มีสีของผัก ผลไม้ประกอบ ฯลฯ เพื่อการเติบโตที่ดีของลูกน้อย สมบูรณ์ครบทั้ง IQ และ EQ
ฟรี! เช็กพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกว่าเป็นไปตามวัยหรือไม่ ได้ที่แอปฯ หมอคู่คิดส์
ปรึกษา พูดคุย เช็กพัฒนาการลูกทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ ตลอดจนวิธีสื่อสารเชิงบสกที่ถูกต้องกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลชั้นนำ ได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ได้ที่แอปฯ หมอคู่คิดส์ ทุกอาการเจ็บป่วย เทคนิคการเลี้ยงลูก จิตวิทยาเด็ก พัฒนาการ เรื่องลูกถามหมอคู่คิดส์ดีกว่า iOS และ Android
เช็กอาการ “ไอกรน” โรคระบาดสุดอันตราย ติดต่อง่าย
4 โรคชื่อไม่คุ้
Did you know? มัดรวมเรื่องเด็ด เกร็ดความรู้แม่และเด็ก
4 โรคชื่อไม่คุ้
Q&A แม่ตั้งครรภ์ ทำสวยอะไรได้ Botox, Filler, Ulthera, ย้อมผม
4 โรคชื่อไม่คุ้