ลูกแหวะนม ต้องดูแลอย่างไร? รวมเทคนิครับมือเมื่อลูกแหวะนมบ่อย
ลูกแหวะนม ต้องดูแลอย่างไร? รวมเทคนิครับมือเมื่อลูกแหวะนมบ่อย
โดย : หมอคู่คิดส์ | 29 กรกฎาคม 2025 | บทความทางการแพทย์
Highlight
– สาเหตุของการแหวะนม เกิดจากระบบย่อยอาหารของเด็กที่ยังไม่สมบูรณ์
– เมื่อลูกกินนมเยอะไป จะทำให้ไม่สบายท้อง จนแหวะนมได้
– การแหวะนมถือเป็นอาการปกติที่พบเจอได้ในทารก
– เทคนิครับมือคือควรให้ลูกกินนมทุก 3-4 ชม. ในปริมาณที่เหมาะสม
– เมื่ออายุ 3-6 เดือน อาการแหวะนมจะค่อยๆ หายไปเอง เพราะระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
การแหวะนมถือเป็นปัญหาทั่วไปที่พ่อแม่มือใหม่มักกังวล โดยเฉพาะในเด็กวัยแรกเกิดไปจนถึงขวบปีแรก การที่ลูกน้อยแหวะนมหลังดูดนมเสร็จบ่อยๆ อาจทำให้พ่อแม่ใจไม่ดี คิดไปไกลว่าลูกอาจกำลังเจ็บป่วยหรือมีความผิดปกติบางอย่าง แต่ความจริงแล้ว อาการแหวะนมในทารกสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตาม การแหวะนมก็เป็นอาการที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นบทความยนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความเข้าใจกับเรื่องนี้กันให้มากขึ้น
สาเหตุของการแหวะนม
การแหวะนมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งในทารกแรกเกิดนั้น ระบบย่อยอาหารยังไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารยังทำงานไม่เต็มที่ เมื่อกินนมเยอะไป จึงให้ไม่สบายท้องหรือเกิดการไหลย้อนของน้ำนมออกมาทางปากได้ง่ายกว่าในเด็กโตหรือผู้ใหญ่
นอกจากนี้ยังสามารถเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ อีก เช่น
– กินนมเร็วเกินไปหรือมากเกินไป : ในบางกรณีที่ลูกดูดนมแรง หรือกินได้ปริมาณมากในเวลาอันสั้น ก็อาจทำให้กระเพาะอิ่มเร็ว จนเกิดแรงดันให้แหวะออกมา
– ลูกกลืนลมหรือเรอไม่หมด : เวลาดูดนม หากลูกกลืนลมเข้าไปมากและไม่ได้เรอหลังให้นม ลมในกระเพาะจะดันนมให้ออกมาทางปากอีกครั้ง
– แพ้โปรตีนบางชนิด : เด็กบางคนมีอาการแพ้โปรตีนนมวัว ซึ่งอาจแสดงออกด้วยอาการแหวะนม ร่วมกับอาการอื่น เช่น ผื่น ท้องอืด ถ่ายเหลว
– ภาวะกรดไหลย้อนในทารก : เป็นภาวะที่พบได้ในเด็กทารก ส่งผลให้เด็กแหวะนมบ่อย อาจจะมีอาการร่วมอื่นๆ ด้วย เช่น ร้องงอแงบ่อย หลับยาก เจริญเติบโตช้า
อาการของการแหวะนม
การแหวะนมถือเป็นอาการปกติที่พบเจอได้ในทารก โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้
– อาเจียน
– บิดตัว
– พุงกาง
– มีเสียงครืดคราดในคอ
– ส่งเสียงร้องแอะๆ
– ลูกแหวะนมทีละน้อยๆ ไม่มาก
– แหวะมาเป็นลักษณะน้ำนมหรืออาจปนลายๆ ขาวๆ
– แหวะนมหลังกินแล้วไม่นาน (ไม่เกิน 1 ชั่วโมง)
– ลูกยังดูสดใส ร่าเริง กินนมได้ดี
– น้ำหนักตัวเพิ่มตามเกณฑ์พัฒนาการ
สังเกตว่าหากไม่มีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย เช่น ไม่มีไข้ ไม่ร้องงอแง ไม่เบื่ออาหาร หรือไม่มีน้ำหนักลด แสดงว่าอาการแหวะนมนั้นอาจอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ในทางกลับกัน อาการแหวะนมผิดปกติที่ควรพบแพทย์ มีดังนี้
– แหวะนมปริมาณมาก และเกิดบ่อยเกินไป ในทุกมื้อ
– แหวะนมแบบพุ่ง
– มีเลือดปนในนมหรือเป็นสีเขียว สีเหลือง
– ร้องไห้งอแงมากผิดปกติ หลังแหวะนม
– กินนมน้อยลง มีอาการเบื่ออาหาร
– น้ำหนักตัวขึ้นช้า หรือไม่ขึ้นเลย
– มีอาการไอเรื้อรัง สำลักบ่อย หายใจมีเสียงวี๊ด
– มีภาวะขาดนํ้า
ลูกแหวะนมบ่อย ส่งผลอะไรบ้าง
การแหวะนมในทารกส่วนใหญ่มักเป็นอาการชั่วคราว และไม่ก่อให้เกิดผลเสียระยะยาว แต่ในบางกรณี ลูกน้อยที่มีอาการแหวะนมบ่อยเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพดังนี้
– ขาดน้ำ : หากแหวะนมในปริมาณมากและบ่อย ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้
– มีพฤติกรรมกินจุ : อาจส่งผลให้ลูกมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้ในอนาคต
– ภาวะกรดกัดทางเดินอาหาร : กรดในกระเพาะที่ไหลย้อนกลับขึ้นมา อาจทำให้หลอดอาหารระคายเคืองหรืออักเสบ เกิดอาการเจ็บแสบ ร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ
– เกิดการสำลัก : โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิด มีความเสี่ยงสำลักเมื่อนอนราบระหว่างหรือหลังให้นม
– นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท : กรดไหลย้อนหรือแหวะนมตอนกลางคืนอาจทำให้ลูกอึดอัด ไม่สบายตัว จนทำให้สะดุ้งตื่นหรือร้องไห้
– เสี่ยงติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ : หากแหวะนมย้อนขึ้นมาสู่หลอดลม มีโอกาสเกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อทางระบบหายใจ เช่น ปอดอักเสบได้
เทคนิคลดอาการแหวะนม
แม้ว่าอาการแหวะนมจะเป็นเรื่องปกติในเด็กทารก แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถลองปรับวิธีการให้นมหรือดูแลลูกน้อยเพื่อช่วยลดอาการได้ โดยมีเทคนิคที่สำคัญ ได้แก่
ป้อนนมทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง
การให้นมในปริมาณที่พอดีหรือน้อยลงต่อครั้ง และเพิ่มความถี่ในการให้นม ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง จะช่วยให้กระเพาะไม่แน่นเกินไป ลดโอกาสเกิดแรงดันที่ทำให้น้ำนมย้อนกลับได้ และไม่ควรให้ลูกกินนมตอนที่หิวมากๆ
อุ้มลูกในท่าทางที่ถูกต้องระหว่างดูดนมและหลังกิน
อุ้มให้ศีรษะของลูกสูงกว่าลำตัวเล็กน้อย (เอียงประมาณ 45 องศา) ระหว่างป้อนนม และอุ้มลูกให้อยู่ในลักษณะตรงหลังจากกินนมเสร็จ อย่างน้อย 20–30 นาที เพื่อให้แรงโน้มถ่วงช่วยให้น้ำนมไหลลงสู่กระเพาะ และไม่ย้อนขึ้น
ให้ลูกเรอหลังกินนมทุกครั้ง
หากลูกทำท่าอิ่ม ให้หยุดป้อนนม จากนั้นควรอุ้มให้ลูกเรอ แต่ถ้าลูกกินเร็วหรือกลืนลมเยอะ ควรหยุดพักกลางทางเพื่อให้ลูกเรอก่อน แล้วค่อยให้นมต่อ
ไม่ควรจับลูกนอนทันทีหลังกินนม
ควรให้ลูกนอนหลังป้อนนมประมาณ 30 นาที โดยก่อนที่จะวางลูกนอน ควรจับนั่งพิงหรือนั่งครึ่งนอน พร้อมจับให้เรอจนแน่ใจว่าไม่มีลมค้างในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังไม่ควรขยับร่างกายของลูกแรงๆ ด้วย
ปรับอาหารแม่ ในกรณีให้นมแม่
หากสังเกตว่าลูกแหวะนมหลังจากคุณแม่ทานอาหารบางประเภท เช่น นมวัว ถั่ว ไข่ สาเหตุก็อาจเกิดจากการแพ้อาหารได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรลองหยุดอาหารกลุ่มเสี่ยงและสังเกตอาการของลูกว่าแหวะนมน้อยลงหรือไม่
เปลี่ยนสูตรนมผง ถ้าจำเป็น
หากลูกกินนมผงและมีการแหวะนมรุนแรง แพทย์อาจแนะนำเปลี่ยนไปใช้นมสูตรย่อยง่าย หรือนมสูตรพิเศษสำหรับเด็กที่มีภาวะกรดไหลย้อน
สรุปอาการลูกแหวะนม
อาการลูกแหวะนมในช่วงขวบปีแรกเป็นเรื่องธรรมดา แต่อาจสร้างความกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ไม่น้อย เมื่ออายุ 3-6 เดือน อาการแหวะนมจะค่อยๆ หายไปเอง เพราะระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น แต่ระหว่างที่ลูกอยู่ในวัยที่สามารถเกิดอาการแหวะนม สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการของลูกน้อยและให้นมลูกน้อยอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้อาการนี้ต่อยอดไปสู่ความอันตรายได้
คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกน้อย อาการเจ็บป่วย พัฒนาการเด็ก หรือเรื่องอื่นๆ สามารถโหลดแอปฯ หมอคู่คิดส์ เพื่อปรึกษาแพทย์ พยาบาล ได้เลย รู้อาการได้ทันที ไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล ใช้งานง่าย คุยได้ตลอด ผ่านระบบแชทและวิดีโอคอล ดาวน์โหลดและปรึกษาเลยวันนี้! ทั้งในระบบ iOS และ Android